การอุด EGR มีผลกับเครื่องอย่างไร

รถกระบะแบบใหม่ที่ถูกก้าวหน้าขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนั้นจนมายืนเทียบชั้นรถยนต์นั่งหลายๆรุ่น จนจัดหามาแฟชั่นมาเกลาแรงกัน โดยเฉพาะเรื่องของเครื่องยนต์กลไกที่วิ่งได้ไม่แพ้รถเก๋ง และเมื่อพูดถึงการทำให้รถแรงขึ้นนั้น เราหลายคนต้องเคยได้ยินตัวอักขระ EGR ที่ได้รับคำแนะนำว่าให้อุดมันทิ้งเสียเถิดเพื่อความสนุกสนานในการขี่มากหลายคนอาจจะตัดสินใจในเรื่องการอุด EGR ที่อาจจะตอบโจทย์ในความแรงโดยไม่ได้ไถ่ถามว่าตกลงมันมีความสลักสำคัญอย่างไร บ้าง แต่แท้ที่สุทธิแล้ว EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้น คือวาล์วตัวหนึ่งที่ทำการดึงควันพิษจากท่อไอเสียกลับมาเวียน ในการเผาไหม้อีกรอบ ซึ่งประโยชน์หลักของมันนั้นก็เพื่อตอบสนองเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม

เราคงต้องบอกว่า นายช่างไม่ได้คิดเลยในส่วนนี้ขึ้นมา แม้แต่ EGR นั้นมีคุณค่ามากกว่าที่คิด โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งแวดล้อมอย่างที่ได้กล่าวไปเช่นเดียวกับในเรื่องของการ เขียมน้ำมันรถ และเชื่อหรือไม่ การอุด EGR อาจจะทำให้รถคุณไม่ได้รับการการันตีในเรื่องเครื่องจักรด้วยหลักการเรื่องอุด EGR อย่างที่เรากล่าวไปแล้วว่า EGR หรือ Exhaust Gas Recirculation นั้นคือการนำควันพิษกลับมาเผาไหม้ซึ่ง แท้จริงว่า มันก็ไม่แตกต่างอะไรจากการที่เอาของเสียมายัดลงไปในท้องอีกครั้ง และนั่นคือการก่อสร้างให้เกิดความรู้เรื่องผิดที่ว่า ปิด EGR แล้วจะแรงขึ้น

ลองทำคิดง่ายเมื่อวาล์วเปิดเครื่องจักรกลย่อมจะต้องสั่งลดการสั่งจ่ายน้ำมัน ให้ส่วนผสมบางลงเพื่อลดการเกิดแก๊ส โดยหวังว่าแก๊สไอเสียที่มีส่วนน้ำมันที่ระคนอยู่ในลักษณะแก๊สที่เผาไหม้ไม่หมด นั้นมาควบประชุมแล้วจุดระเบิดเผาไหม้อีกครั้งนั้นจะมา แต่เราดันไปอุดมันนั้น ผลคือส่วนคละเคล้าที่บางย่อมส่งผลในเรื่องของการจุดระเบิดที่ไม่ปกติ คือส่วนผสมบาง ซึ่งทำให้เครื่องยนต์กลไกร้อนขึ้น เสี่ยงต่อเครื่องยนต์พังมากกว่า แต่แน่นอนย่อมมีคนต้องบอกว่ายังไม่มีใครเจอ แต่จะคิดแค่วันนี้วันพรุ่งนี้ไม่ได้

ชนิดต่อมา พอระบบไอเสียมีมลภาวะมาก ผลคือระบบขับถ่ายไอเสียที่ยุคปัจจุบัน มีตัวกรองไอเสีย ซึ่งเราเรียกว่า Caterlytic Converter นั้น จะทำหน้าที่หนักขึ้นและ เมื่อมันทำงานหนักก็เสี่ยงที่จะอุดตันเร็วกว่าปกติ เมื่อเปรียบเทียบกับรถที่ไม่ได้ทำการอุด EGR และสุดท้ายที่ลืมนึกถึงไม่ได้ คือเทอร์โบ ที่ประจุบันเทอร์โบแบบ Variable หรือ Geometry turbo นั้นมีการอ่านค่าไอเสียและรอบเครื่องกลไกในการปรับสัมพันธไมตรีในการทำงาน ของชุดครีบ ซึ่งทำให้ล้มเหลวต่อแกนเทอร์โบมีความร้อนสะสมมากกว่านั่นเอง